AssumptionPride 10 : ชนินทร์ ตั้งเศรษฐนากร

AssumptionPride 10
ชนินทร์ ตั้งเศรษฐนากร 42995 AC125
< คิดว่าบทบาทของ LGBTQ+ ในโรงเรียนเป็นยังไงครับ ? >
คิดว่าคงเป็นกลุ่มที่สร้างสมดุลและหลากหลายให้สังคมโรงเรียน แล้วก็เป็นสถานที่ที่ทำให้เริ่มเรียนรู้ว่า เพศมีหลากหลายมากกว่า ผู้ชาย ผู้หญิง ถ้าไม่นับบทบาทเรื่อง นั่งเฝ้ากระเป๋าตังค์ให้ผู้ชายคาบพละ จริง ๆ บทบาทก็คือนักเรียนคนนึงเหมือนกัน อ้อ อีกอย่างคือ ไม่ว่าจะเพลงฉลองอธิการ หรือ นักบุญ ชั้นคือนักร้องนำจ้ะ อินสุด ! ฟีลมันได้ อินทุกเทศกาล
< วิเคราะห์ให้ฟังหน่อยว่าเอกลักษณ์ของ LGBTQ+ โรงเรียนอัสสัมชัญ คืออะไร ? >
ในส่วนตัวไม่คิดว่ามันคือเอกลักษณ์เฉพาะโรงเรียนอะ เพราะจริง ๆ โดยทั่วไปก็เหมือนกันหมด เท่าที่เห็นก็มีทุกแบบ ถ้าจะแตกต่างก็เพราะเอกลักษณ์ส่วนบุคคลมากกว่า แต่ถ้าจะให้เจาะลึกเฉพาะโรงเรียนอัสสัม ก็คิดว่าน่าเป็น "จริตคอนแวนต์" ที่อย่างน้อยก็นี่หนึ่งที่อยากมีฟีลเพื่อนช่วยถักเปียก่อนเข้าโรงเรียน
< เจอปัญหาอะไรจากโรงเรียนบ้างไหมครับ ? >
กับเพื่อนไม่เคยเจอ หรือ โดนแกล้งอะไรเท่าไหร่
แต่จำฝังใจตอนเด็ก ที่จู่ ๆ ก็มีครูประจำชั้นเดินมาพูดตอนชั่วโมงโฮมรูมด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ถ้าถามว่าห้องเรามีพวกเบี่ยงเบนมั้ย ครูก็คงต้องตอบตรง ๆ ว่า.. มี" ซึ่งพอพูดจบก็ไม่ได้มีแนวทางหรือบอกว่าจะให้ทำอะไรต่อ ตอนนั้นเรายังเด็ก ในใจเรากลัวอย่างเดียว กลัวโดนดุ กลัวเพื่อนล้อ
แต่พอโต คิดไปคิดมา มันไม่สมเหตุสมผลอะไรเลยที่จู่ ๆ เค้าจะแซะเราไปมาแบบนั้น เอาจริง ๆ มัน discourage เราประมาณนึงเลยนะ สร้าง perception ว่าการเป็นแบบนี้คือผิด คือจะโดนดุ ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะยกมือแล้วบอกว่า "หนูค่ะ // ยิ้มอ่อน" แต่ครูที่เข้าใจก็มีเยอะ คอยซัพพอทก็มี
< การเป็น LGBTQ+ ในโรงเรียนชายล้วนเป็นอย่างไร แตกต่างจากที่อื่นมั้ย ? >
อาจเพราะเรียนชายล้วนมาตั้งแต่ ป.1 เลยไม่รู้สึกว่า เราหรือเพื่อน มองว่ามันแปลก นี่ว่าดีไม่ดี เพื่อนกับเราก็รู้พร้อมกันว่า เราเป็น เพราะถึงแม้จะเป็นตั้งแต่เกิด แต่ช่วงรู้สึกตัว มันก็คือช่วงที่เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในโรงเรียน ที่เจอมาไม่เคยโดนล้อแรง ๆ เท่าไหร่ เพราะก็อย่างที่บอกส่วนมากแทบจะโตมาด้วยกัน น่าจะสงสัยจนเลิกสงสัยไปแล้ว
ส่วนถ้าถามว่าแตกต่างจากที่อื่นมั้ย นี่เรียนโรงเรียนเรียนชายล้วนมาตลอด แต่พอเข้าสังคมมหาวิทยาลัย ก็ไม่ต่างเท่าไหร่นะ คิดว่า ทุกคนที่มาจากหลาย ๆ ที่ก็คงพอเข้าใจ concept ของการเป็นแบบเราแล้ว
ข้อดีที่มาจากชายล้วนคงเป็นการที่เราเข้าหาผู้ชายที่มาจากชายล้วนด้วยกันง่ายขึ้น เหมือนมันเองก็ชินเรา 555 ต่างกันจากผู้ชายที่มาจาก สห ก็จะมีความระวังตัวเองขึ้นมาหน่อยนึง ซึ่งโดยรวมก็ไม่ได้ใช้ชีวิตต่างอะไรจากการอยู่โรงเรียน แค่ผู้ชายน้อยลงครึ่งนึง
< อยากบอกอะไรถึงรุ่นน้องบ้างไหมครับ >
เคยกลับไปโรงเรียนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สิ่งนึงที่แอบภูมิใจเล็ก ๆ คือ เราสัมผัสได้จริง ๆ ว่า สังคมเรามันกว้างขึ้น มีคนเข้าใจมากขึ้น น้องกล้าออกความเห็นเพื่อแสดงจุดยืนกว่าตอนรุ่นเรา แต่เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาและความเข้าใจที่แท้จริง มันเป็นเอเนอจี้ที่ดีนะ ที่จะกล้าแสดงจุดยืน หรือ อย่างน้อยสร้างความตระหนักรู้ ว่า เราสมควรได้พื้นที่เท่ากับคนอื่นเหมือนกัน
< อยากฝากอะไรอีกไหมครับ >
จริง ๆ ก็อย่างที่บอกไป เราขอยืนยันว่า การเป็นแบบนี้มันไม่ควรโดนมองว่าแปลก หรือ โดนปฏิบัติด้วยมาตรฐานที่ต่างกัน อันนี้พูดได้ จากประสบการณ์คนเป็นจริง ๆ ตอนเกิดมามันไม่ได้มี option ให้เลือกอะ เลือกไม่ได้ แต่ก็เข้าใจในอีกมุมว่า ก็มีฝั่งที่ไม่เข้าใจ LGBTQ+ เลย และต่อต้าน
ก็อยากจะใช้คำพูด Cliché ว่า " LGBTQ+ ไม่ใช่หวัดจะได้กินพาราแล้วหาย"
การยอมรับ ความเข้าใจ การพูดคุย การเห็นอกเห็นใจ จะช่วยได้ แล้วก็อย่างที่เล่าไป ส่วนมากมันไม่ได้เกิดมาจากเพื่อนด้วยกันหรอก ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า คนที่อยู่กับเรามากที่สุด ที่มีอิทธิพลทางการกระทำและความคิด ทั้งกับเราและคนรอบตัวในช่วงเวลานั้นก็คือ "ครู"
การสร้างพื้นฐานความเข้าใจในเพศสภาพที่ดี ว่าไม่แปลกแยก เป็นเรื่องจำเป็นนะ บางอย่างแค่พูดออกมา ไม่กี่นาทีหลายคนก็ลืมไปแล้ว เช่นอย่างเคสเรา มันฝังใจนะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจและมีขีดจำกัดยอมรับได้เหมือนกัน เพศทางเลือกก็เหมือนเพศอื่นแหละ มันคือ natural มีดีมีชั่ว ไม่จำเป็นต้องเห็นใจกัน ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย แค่ยอมรับว่าเราคือคนเหมือนกันก็พอ
ท้ายนี้อยากเป็นส่วนที่ผลักดันเรื่องการ educate LGBTQ+ ให้อยู่ในองค์กรการศึกษา ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่วิชาในตำรา เพราะมันยังทำให้เด็กทั้งคนที่เป็น และ เพื่อนรอบข้าง มี guideline ในการใช้ชีวิตอะ
มันงงจริง ๆ นะ ตอนที่รู้สึกใหม่ ๆ แบบ อ่าว ถ้าตัวกูเองแน่ใจแล้วว่าเป็น ต้องทำไงต่ออะ ต้องสมัครสมาชิกมั้ย หรือ กูต้องบอกใครบ้างนะ ? เช่นเดียวกัน คนรอบข้างก็จะได้รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงไม่ให้ลำบากใจทั้งเค้าและตัวเอง มันคือเรื่องที่ดีกับทุกฝ่ายอะ
วันนี้หรือที่ผ่านมามันอาจเป็นเรื่องเล็ก แต่มันคือเรื่องใหญ่สำหรับการ motivate สังคม ยุค 2021 และข้างหน้าต่อไป เพราะในอนาคตก็ไม่แน่ว่า เราอาจจะถึงยุคที่เราไม่ได้แค่ภูมิใจในคำว่า "สุภาพบุรุษอัสสัมชัญ" แต่ เราจะสามารถภูมิใจเพียงเพราะ "เรียนอัสสัมชัญ"
-------------------
ขอขอบคุณ ชนินทร์ ตั้งเศรษฐนากร 42995 AC125
สัมภาษณ์ : 6 มิถุนายน 2021
เผยแพร่ครั้งแรก : 10 มิถุนายน 2021 ในเพจเฟซบุ๊ค Assumption Museum
Art Work : กฤตภาส บัวเสริมสวรรค์ AC130